เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 🌞 เราก็จะเริ่มเห็นผลไม้หน้าร้อนกันมากขึ้น และที่หลายคนนึกถึงมากที่สุดก็น่าจะเป็น “มะยงชิด” หรือมะปรางลูกเท่าไข่ไก่นั่นเอง รสหวานอมเปรี้ยว กินสด ๆ ก็อร่อย หรือจะนำมะยงชิดไปทำเป็นขนมหวานก็ได้ฟีลชื่นใจ และเนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้ามะยงชิดจะออกผล วันนี้ SGE จึงอยากจะนำสรรพคุณของมะยงชิดมานำเสนอ มาดูกันว่า คุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิดมีดีต่อสุขภาพของเรายังไงบ้าง?

ทั้งนี้ 👉 มะยงชิดยังมีชื่อเรียกตามแต่รสชาติด้วย โดยถ้ามีรสหวานมากกว่าเปรี้ยว จะเรียกว่า มะยงชิด แต่หากมีรสชาติเปรี้ยวมากกว่าหวานจะเรียกว่า มะยงห่าง ซึ่งในส่วนของรสชาตินั้นก็อย่างที่บอกว่า เป็นไปตามความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ ส่วนแหล่งปลูกมะยงชิดในบ้านเรา จะมีอยู่ที่ นครนายก, สุโขทัย, ปราจีนบุรี, เพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร นั่นเอง

▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾

210318-Content-มะยงชิด-ผลไม้น่าร้อนยอดนิยม02


👍 ประโยชน์ของมะยงชิด

มะยงชิด ผลไม้ที่มีลักษณะคล้ายไข่ไก่ เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายก แต่ถ้าให้พูดถึงคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ในมะยงชิดมีทั้ง คาร์โบไฮเดรต, ใยอาหาร, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, แคลเซียม, วิตามินซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบีตา-แคโรทีน ซึ่งเมื่อเทียบกับผลไม้อื่น ๆ แล้ว มะยงชิดมีบีตา-แคโรทีนมากถึง 207 ไมโครกรัม จากสารอาหารที่มีทั้งหมดในมะยงชิด ทำให้มะยงชิดมีสรรพคุณต่อต้านอนุมูลอิสระ, บำรุงสายตา, ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน, ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน และเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย

คุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิด
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิดปริมาณ 100 กรัม หรือมะยงชิดประมาณ 3-4 ผล ดังนี้

พลังงาน : 62 กิโลแคลอรีน้ำ : 85 กรัมโปรตีน : 0.5 กรัม
ไขมัน : 0.3 กรัมคาร์โบไฮเดรต : 14.2 กรัมใยอาหาร : 1.6 กรัม
เถ้า : 0.3 กรัมโซเดียม : 2 มิลลิกรัมโพแทสเซียม : 137 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม : 6 มิลลิกรัมแคลเซียม : 1 มิลลิกรัมฟอสฟอรัส : 13 มิลลิกรัม
เหล็ก : 0.28 มิลลิกรัมสังกะสี : 0.10 มิลลิกรัมไอโอดีน : 1.8 ไมโครกรัม
บีตา-แคโรทีน : 207 ไมโครกรัมวิตามินซี : 25 มิลลิกรัมน้ำตาล : 13 กรัม


👎 โทษของมะยงชิด

ถึงแม้จะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ แต่การบริโภคสำหรับผู้ป่วยบางโรคควรจำกัดปริมาณให้ดี เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรทานมะยงชิดในปริมาณที่จำกัด เพราะมะยงชิดมีทั้งน้ำตาลฟรุกโทส, กลูโคส และซูโครส ซึ่งน้ำตาลกลูโคส และซูโครสนั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ป่วยโรคเบาหวานเท่าไรนัก


🤔 หลายคนอาจจะสงสัยว่า มะยงชิดกับมะปราง ต่างกันอย่างไร?

มะยงชิดและมะปราง หากมองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่เห็นความแตกต่าง เพราะเป็นพืชในกลุ่มเดียวกัน และยังเป็นผลไม้หน้าร้อนที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ทั้งคู่ แต่ความแตกต่างจะดูได้ที่ขนาดเป็นหลัก จะพบว่าส่วนใหญ่ มะปรางจะลูกเล็กกว่ามะยงชิด อีกทั้งสังเกตได้จากสีหลังจากที่ผลสุกเต็มที่ หากเป็นมะปรางหวานสีจะออกเหลืองนวลมากกว่า มะยงชิดที่ออกสีเหลืองอมส้ม


❝ ตอนผลดิบมะปรางหวาน จะมีรสมัน สีออกเขียวซีดผลใส ขณะที่มะยงชิด จะมีรสเปรี้ยว และสีเขียวจัดในตอนผลดิบ เมื่อสุกแล้วมะปรางหวาน จะให้รสชาติหวาน หรือหวานจืด ส่วนมะยงชิด จะออกรสหวานอมเปรี้ยว ❞

ที่สำคัญ… มะปรางหวานบางสายพันธุ์เมื่อทานแล้วจะระคายเคืองในคอเพราะมียาง แต่มะยงชิดไม่มียาง จึงทานได้อร่อยไม่รู้สึกระคายเคืองคอ 👍


เมนูง่าย ๆ ส่งท้ายกันสักนิด

มะยงชิดลอยแก้ว💕
สูตรผลไม้ลอยแก้วดูเลอค่า ทำขนมไทยเย็นฉ่ำแบบนี้ดูบ้าง แทนที่จะกินแต่มะยงชิดสด ๆ น่าเบื่อ ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก

#ส่วนผสม มะยงชิดลอยแก้ว

  • มะยงชิด
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำ
  • ใบเตย
210318-Content-มะยงชิด-ผลไม้น่าร้อนยอดนิยม04


#วิธีทำมะยงชิดลอยแก้ว

  1. ทำน้ำเชื่อม โดยเทน้ำใส่หม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย นำขึ้นตั้งไฟ แล้วใส่ใบเตยลงไป เคี่ยวจนเริ่มเหนียวแล้วเอาใบเตยออก ปิดไฟแล้วต้องพักน้ำเชื้อมไว้ให้เย็น ไม่อย่างนั้นมะยงชิดจะสุก
  2. ปอกเปลือกมะยงชิดออกจนหมด แล้วคว้านเอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นตามใจชอบ
  3. จัดมะยงชิดที่ปอกเปลือกแล้วเรียงใส่ภาชนะ เทน้ำเชื่อมที่เย็นแล้วตามลงไป ปิดฝาให้มิดชิด
  4. จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็น ก่อนนำมารับประทาน พร้อมเสิร์ฟ


เค้กมะยงชิดนึ่ง💕
เมนูที่ทำง่ายสุด ๆ ถึงจะไม่มีเตาอบก็ทำได้ง่าย ๆ สบาย ๆ อิ่มกันทั้งครอบครัว

#ส่วนผสม เค้กมะยงชิดนึ่ง

  • มะยงชิด 300 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • นมสด 150 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 130 กรัม
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา


#วิธีทำ เค้กมะยงชิดนึ่ง

  1. นำมะยงชิด น้ำตาลทราย เกลือป่น และนมสด มาปั่นให้ทุกอย่างเข้ากัน เทใส่ชามเตรียมไว้
  2. ร่อนแป้ง ผงฟู และเบกกิ้งโซดาลงในชามที่มีน้ำมะยงชิด คนให้ทุกอย่างเข้ากัน
  3. ตักส่วนผสมเค้กมะยงชิดที่เตรียมไว้ลงในพิมพ์ขนม โดยให้เหลือขอบประมาณ 1 – 2 มิลลิเมตร
  4. ใช้ไม้จิ้มฟันจุ่มน้ำมะนาว และกรีดหน้าให้เป็นกากบาด จะช่วยให้หน้าเค้กแตกสวย
  5. นึ่งเค้กมะยงชิดประมาณ 20 – 25 นาที
  6. พักเค้กมะยงชิดที่นึ่งเสร็จแล้วให้เย็น จัดเสิร์ฟใส่จานเป็นอันเรียบร้อย


จะเห็นได้ว่า มะยงชิด เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารล้นเหลือ สารต้านอนุมูลอิสระก็มีไม่น้อย แถมรสชาติอร่อยจนหยุดใจไม่ไหว ต่อให้มะยงชิดราคาแรงก็ต้องยอม เพราะ 1 ปี มะยงชิดจะออกผลให้ได้ลิ้มรสสัก 1 ครั้งเท่านั้นนะจ๊ะ! 😍🤟

สามารถติดตาม บทความอื่นๆ ได้ที่นี่ 

ที่มา : SGETHAI