เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 🌞 เราก็จะเริ่มเห็นผลไม้หน้าร้อนกันมากขึ้น และที่หลายคนนึกถึงมากที่สุดก็น่าจะเป็น “มะยงชิด” หรือมะปรางลูกเท่าไข่ไก่นั่นเอง รสหวานอมเปรี้ยว กินสด ๆ ก็อร่อย หรือจะนำมะยงชิดไปทำเป็นขนมหวานก็ได้ฟีลชื่นใจ และเนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้ามะยงชิดจะออกผล วันนี้ SGE จึงอยากจะนำสรรพคุณของมะยงชิดมานำเสนอ มาดูกันว่า คุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิดมีดีต่อสุขภาพของเรายังไงบ้าง?
ทั้งนี้ 👉 มะยงชิดยังมีชื่อเรียกตามแต่รสชาติด้วย โดยถ้ามีรสหวานมากกว่าเปรี้ยว จะเรียกว่า มะยงชิด แต่หากมีรสชาติเปรี้ยวมากกว่าหวานจะเรียกว่า มะยงห่าง ซึ่งในส่วนของรสชาตินั้นก็อย่างที่บอกว่า เป็นไปตามความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ ส่วนแหล่งปลูกมะยงชิดในบ้านเรา จะมีอยู่ที่ นครนายก, สุโขทัย, ปราจีนบุรี, เพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร นั่นเอง |
▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾
👍 ประโยชน์ของมะยงชิด
มะยงชิด ผลไม้ที่มีลักษณะคล้ายไข่ไก่ เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายก แต่ถ้าให้พูดถึงคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ในมะยงชิดมีทั้ง คาร์โบไฮเดรต, ใยอาหาร, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, แคลเซียม, วิตามินซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบีตา-แคโรทีน ซึ่งเมื่อเทียบกับผลไม้อื่น ๆ แล้ว มะยงชิดมีบีตา-แคโรทีนมากถึง 207 ไมโครกรัม จากสารอาหารที่มีทั้งหมดในมะยงชิด ทำให้มะยงชิดมีสรรพคุณต่อต้านอนุมูลอิสระ, บำรุงสายตา, ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน, ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน และเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย
คุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิด
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิดปริมาณ 100 กรัม หรือมะยงชิดประมาณ 3-4 ผล ดังนี้
พลังงาน : 62 กิโลแคลอรี | น้ำ : 85 กรัม | โปรตีน : 0.5 กรัม |
ไขมัน : 0.3 กรัม | คาร์โบไฮเดรต : 14.2 กรัม | ใยอาหาร : 1.6 กรัม |
เถ้า : 0.3 กรัม | โซเดียม : 2 มิลลิกรัม | โพแทสเซียม : 137 มิลลิกรัม |
แมกนีเซียม : 6 มิลลิกรัม | แคลเซียม : 1 มิลลิกรัม | ฟอสฟอรัส : 13 มิลลิกรัม |
เหล็ก : 0.28 มิลลิกรัม | สังกะสี : 0.10 มิลลิกรัม | ไอโอดีน : 1.8 ไมโครกรัม |
บีตา-แคโรทีน : 207 ไมโครกรัม | วิตามินซี : 25 มิลลิกรัม | น้ำตาล : 13 กรัม |
👎 โทษของมะยงชิด
ถึงแม้จะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ แต่การบริโภคสำหรับผู้ป่วยบางโรคควรจำกัดปริมาณให้ดี เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรทานมะยงชิดในปริมาณที่จำกัด เพราะมะยงชิดมีทั้งน้ำตาลฟรุกโทส, กลูโคส และซูโครส ซึ่งน้ำตาลกลูโคส และซูโครสนั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ป่วยโรคเบาหวานเท่าไรนัก
🤔 หลายคนอาจจะสงสัยว่า มะยงชิดกับมะปราง ต่างกันอย่างไร?
มะยงชิดและมะปราง หากมองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่เห็นความแตกต่าง เพราะเป็นพืชในกลุ่มเดียวกัน และยังเป็นผลไม้หน้าร้อนที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ทั้งคู่ แต่ความแตกต่างจะดูได้ที่ขนาดเป็นหลัก จะพบว่าส่วนใหญ่ มะปรางจะลูกเล็กกว่ามะยงชิด อีกทั้งสังเกตได้จากสีหลังจากที่ผลสุกเต็มที่ หากเป็นมะปรางหวานสีจะออกเหลืองนวลมากกว่า มะยงชิดที่ออกสีเหลืองอมส้ม
❝ ตอนผลดิบมะปรางหวาน จะมีรสมัน สีออกเขียวซีดผลใส ขณะที่มะยงชิด จะมีรสเปรี้ยว และสีเขียวจัดในตอนผลดิบ เมื่อสุกแล้วมะปรางหวาน จะให้รสชาติหวาน หรือหวานจืด ส่วนมะยงชิด จะออกรสหวานอมเปรี้ยว ❞
ที่สำคัญ… มะปรางหวานบางสายพันธุ์เมื่อทานแล้วจะระคายเคืองในคอเพราะมียาง แต่มะยงชิดไม่มียาง จึงทานได้อร่อยไม่รู้สึกระคายเคืองคอ 👍
เมนูง่าย ๆ ส่งท้ายกันสักนิด
มะยงชิดลอยแก้ว💕
สูตรผลไม้ลอยแก้วดูเลอค่า ทำขนมไทยเย็นฉ่ำแบบนี้ดูบ้าง แทนที่จะกินแต่มะยงชิดสด ๆ น่าเบื่อ ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
#ส่วนผสม มะยงชิดลอยแก้ว
- มะยงชิด
- น้ำตาลทราย
- น้ำ
- ใบเตย
#วิธีทำมะยงชิดลอยแก้ว
- ทำน้ำเชื่อม โดยเทน้ำใส่หม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย นำขึ้นตั้งไฟ แล้วใส่ใบเตยลงไป เคี่ยวจนเริ่มเหนียวแล้วเอาใบเตยออก ปิดไฟแล้วต้องพักน้ำเชื้อมไว้ให้เย็น ไม่อย่างนั้นมะยงชิดจะสุก
- ปอกเปลือกมะยงชิดออกจนหมด แล้วคว้านเอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นตามใจชอบ
- จัดมะยงชิดที่ปอกเปลือกแล้วเรียงใส่ภาชนะ เทน้ำเชื่อมที่เย็นแล้วตามลงไป ปิดฝาให้มิดชิด
- จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็น ก่อนนำมารับประทาน พร้อมเสิร์ฟ
เค้กมะยงชิดนึ่ง💕
เมนูที่ทำง่ายสุด ๆ ถึงจะไม่มีเตาอบก็ทำได้ง่าย ๆ สบาย ๆ อิ่มกันทั้งครอบครัว
#ส่วนผสม เค้กมะยงชิดนึ่ง
- มะยงชิด 300 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- นมสด 150 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 130 กรัม
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
#วิธีทำ เค้กมะยงชิดนึ่ง
- นำมะยงชิด น้ำตาลทราย เกลือป่น และนมสด มาปั่นให้ทุกอย่างเข้ากัน เทใส่ชามเตรียมไว้
- ร่อนแป้ง ผงฟู และเบกกิ้งโซดาลงในชามที่มีน้ำมะยงชิด คนให้ทุกอย่างเข้ากัน
- ตักส่วนผสมเค้กมะยงชิดที่เตรียมไว้ลงในพิมพ์ขนม โดยให้เหลือขอบประมาณ 1 – 2 มิลลิเมตร
- ใช้ไม้จิ้มฟันจุ่มน้ำมะนาว และกรีดหน้าให้เป็นกากบาด จะช่วยให้หน้าเค้กแตกสวย
- นึ่งเค้กมะยงชิดประมาณ 20 – 25 นาที
- พักเค้กมะยงชิดที่นึ่งเสร็จแล้วให้เย็น จัดเสิร์ฟใส่จานเป็นอันเรียบร้อย