“ใบเตย” เป็นสมุนไพรไทยที่มาแต่โบราณ ที่เป็นที่รู้จักกันดี มีปลูกหลายประเทศทั่วโลก ในประเทศไทยมีปลูกหลายสายพันธุ์ มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง ใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ และนำมาใช้ผสมอาหาร แต่งกลิ่น เพิ่มสีอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนู ด้วยคุณสมบัติเด่นในเรื่องกลิ่นนี้เองคนโบราณจึงนิยมนำใบเตยหอมมาใช้ในการประกอบอาหาร ทำขนม หรือเครื่องดื่ม รวมทั้งนำสีเขียวที่ได้จากส่วนใบไปแต่งสีอาหารให้ดูน่ารับประทาน นอกจากใบแล้วส่วนต้นและรากของเตยหอมก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน ดังนั้นวันนี้ SGE ขอพาทุกคนไปรู้จักกับประโยชน์ของใบเตยกันค่ะ…
— ลักษณะทั่วไปของ ใบเตย —
เตยจัดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีลำต้นทรงกลมและเป็นข้อสั้นๆถี่กัน โผล่ขึ้นมาจากดินเพียงเล็กน้อย โคนลำต้นแตกรากแขนงออกเป็นรากค้ำจุนหรือเรียกว่า รากอากาศ ลำต้นสามารถแตกหน่อเป็นต้นใหม่ได้ ทำให้มองเป็นกอหรือเป็นพุ่มใหญ่ๆที่รวมความสูงของใบแล้วสามารถสูงได้มากกว่า 1 เมตร
ใบเตย แตกออกเป็นใบเดี่ยวด้านข้างรอบลำต้นและเรียงสลับวนเป็นเกลียวขึ้นตามความสูงของลำต้นจนถึงขอด ใบมีลักษณะเรียวยาวเป็นรูปดาบ ปลายใบแหลม สีเขียวสด ใบชูเฉียงแนบไปกับลำต้น แผ่นใบเป็นมันกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร แผ่นใบ และขอบใบเรียบ แผ่นใบด้านล่างมีสีจางกว่าด้านบน มีเส้นกลางใบลึกเป็นแอ่งตื้นๆตรงกลาง ใบนี้ส่งกลิ่นหอมตลอดเวลาเพราะมีน้ำมันหอมระเหยและสาร ACPY
— สรรพคุณ และ ขนาดวิธีใช้ —
ในปัจจุบันผู้คนนิยมนำ ใบเตยมาห่อทำขนมหวาน เช่น ขนมตะโก้ ใบนำมามัดรวมกัน ใช้สำหรับวางในห้องน้ำ ห้องรับแขกเพื่อให้อากาศมีกลิ่นหอม ช่วยในการดับกลิ่นหรือใช้ใบเตยสดนำมายัดหมอน ช่วยให้มีกลิ่นหอม นำมาใช้เป็นสารแต่งกลิ่นบุหรี่ นำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตากแดดให้แห้ง ก่อนใช้ชงเป็นชาดื่ม น้ำมันหอมระเหยจากเตยนำไปเป็นส่วนผสมของน้ำยาปรับอากาศ ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง ครีมทาผิว แชมพู สบู่ หรือ ครีมนวด เป็นต้น รวมถึง..
- ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง
- ช่วยดับกระหาย นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม
- รักษาโรคหัดหรือโรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว
- ใช้รักษาโรคเบาหวาน ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น
- ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ โดยการนำต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือไปต้มกับน้ำดื่มหรือใช้ใบมาหั่นตากแดดให้แห้ง แล้วชงดื่มแบบชาเขียวก็ได้
- ใช้บำรุงผิวหน้า โดยการใช้ใบเตยล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาปั่นรวมกับน้ำสะอาดจนละเอียด จะได้ครีมข้นเหนียวแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้
นอกจากคุณค่าทางโภชนาการต่าง ๆ ที่เราจะได้รับ “ใบเตย” ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น แก้อาการเป็นไข้ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บหรือหลังจากการหายป่วย แก้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ แก้อ่อนเพลีย ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ ชูกำลัง ดับพิษไข้ รักษาโรคหัด รักษาโรคสุกใส แก้โรคผิวหนัง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย แก้อาการท้องอืด ลดความดันเลือด ช่วยกระตุ้นให้หัวใจเต้นปกติ และยังออกฤทธิ์ทางยาช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ต้านการอักเสบต่าง ๆ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
👉👉 หากบริโภคหรือใช้เกินความเหมาะสมก็ทำให้เกิดโทษได้ทั้งนั้น การกินใบเตยสดๆ โดยการนำมาเคี้ยวรับประทาน กลิ่นที่หอมของใบเตย ❌❌อาจทำให้เกิดอาหารอาเจียนได้ ส่วนมากจะนำไปต้มเพื่อให้ได้กลิ่นหอม และนิยมดื่มเป็นน้ำใบเตยมากกว่า เพราะจะได้ประโยชน์ของใบเตยไปเต็ม ๆ
“ใบเตย มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไรบ้าง”
ถึงแม้ใบเตยจะเป็นส่วนผสมเพียงส่วนหนึ่งที่มีอยู่ในขนมหลากหลายชนิด แต่ก็มีคุณค่าทางโภชนาการ และให้ประโยชน์อยู่ไม่น้อยทีเดียวเลยนะคะ หากเทียบปริมาณการใช้ใบเตย ในปริมาณ 100 กรัมแล้ว จะทำให้เราได้รับพลังงาน 35 กิโลแคลอรี โปรตีน 1.9 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.9 กรัม เส้นใย 5.2 กรัม แคลเซียม 124 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 27 มิลลกรัม เหล็ก 0.1 มิลลิกรัม เบต้าแคโรทีน2987 ไมโครกรัม วิตามิน A 498 RE ไทอามีน 0.20 มิลลิกรัม ไรโบฟลาวีน 1.2 มิลลิกรัม ไนอาซีน 3 มิลลิกรัม และวิตามินซี 100 กรัม จะเห็นได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการที่พอควรมากๆ แต่ก็ควรระมัดระวังกินแบบพอเหมาะนะคะ
— สูตรน้ำใบเตยเพื่อสุขภาพ —
ก่อนจากกันไป เราขอแนะนำวิธีการทำ น้ำใบเตย หอมๆ จากเพจ Rakbankerd อย่างแรกเลยคือให้เลือกใช้ “เตยหอม” นะคะ เพราะจะทำให้เราได้กลิ่นและได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของใบเตยที่แท้จริง วิธีทำง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไปดูวิธีการทำน้ำใบเตยเพื่อสุขภาพกันค่ะ
1. นำใบเตยสดที่ไม่แก่มาก 5-10 ใบ มาล้างน้ำให้สะอาด และแช่น้ำด่างทับทิมนาน 5-10 นาที
2. นำใบมาตัดตามขวาง 3-5 เซนติเมตร ก่อนนำมาปั่น
3. นำใบเตยส่วนหนึ่งลงต้มในน้ำประมาณ 1 ลิตร พร้อมกับเติมน้ำตาลทรายตามความหวานที่ต้องการ
4. นำน้ำต้มมากรองแยกกากออก
5. นำใบเตยอีกส่วนหนึ่งมาปั่นพร้อมกับเติมน้ำ 2 แก้ว
6. กรองแยกกากออกจนได้น้ำปั่นใบเตย
7. นำน้ำที่กรองได้เติมใส่ในหม้อที่กำลังอุ่น ก่อนทิ้งไว้ 1-2 นาที ค่อยยกลงตั้งให้เย็น
8. ชิมดูความหวาน หากหวานน้อยให้เติมน้ำตาลอีก
9. เมื่อมีความหวานตามต้องการ ค่อยนำมาใส่แก้ว และน้ำแข็งดื่มได้เลย
เป็นอย่างไรบ้างคะทุกคน ว่าใบเตยเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมนำมาใช้ให้กลิ่นหอมแก่อาหาร รวมไปถึงสิ่งของอื่นที่ต้องการความหอมจากใบเตย หรือนำไปใช้เป็นสีผสมอาหารที่ให้สีเขียว แต่นอกจากประโยชน์แค่เพียงให้กลิ่น สี และรสแล้ว ใบเตยยังมีประโยชน์อื่นอีกมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ ก็มีประโยชน์ไม่แพ้สมุนไพรชนิดอื่นๆเลยนะคะ สามารถติดตามบทความอื่นๆได้ที่นี่
ที่มา : Sgethai