ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา เป็นขนมที่ได้รับความนิยมมาก โดยที่ ขนมเปี๊ยะมีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศจีนโดยถูกเรียกว่า “ผั่วเปี๊ยะ” เป็นขนมที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อใช้ในงานมงคลของคนจีนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นงานใดก็ต้องมีขนมเปี๊ยะเสมอ ดังนั้นเราจึงมักจะได้เห็นขนมเปี๊ยะอยู่บนโต๊ะเส้นไหว้เหล่าเทพเจ้าของคนจีนเป็นส่วนใหญ่ หรือแม้แต่ในงานแต่งงาน, งานหมั้น, งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานไหว้พระจันทร์ก็ยังต้องมี ขนมเปี๊ยะ ขึ้นโต๊ะเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นสิริมงคลด้วยเช่นกัน
ในปัจจุบันขนมเปี๊ยะมีไส้ที่หลากหลายมาก ถูกปรับให้เหมาะสมกับรสชาติที่คนไทยชอบมากขึ้น โดยมีทั้งแบบขนาดใหญ่และขนาดเล็กให้เลือกรับประทาน มาในยุคนี้บางคนอาจเริ่มสับสนว่าขนมเปี๊ยะ คือ ขนมของไทยหรือขนมของจีนกันแน่ เพราะมีขายอย่างแพร่หลายในประเทศไทยและบางไส้เป็นไส้ที่คนไทยคิดขึ้นมาอีกด้วย วันนี้ SGE จึงขอนำรายละเอียดเกี่ยวกับขนมเปี๊ยะมาให้ได้อ่านเพิ่มความรู้กันค่ะ ไปดูกันเลย
ตำนานเล่าขานของ ขนมเปี๊ยะ
ตามตำนานของคนจีนในเรื่อง ขนมเปี๊ยะ มีการเล่าต่อเรื่องราวมาอย่างหลากหลาย แต่เนื้อเรื่องที่ได้รับความนิยมที่สุด คือ เรื่องของคู่สามี-ภรรยาที่เมื่อแต่งงานกันแล้ว พ่อสามีเกิดล้มป่วยหนักและฐานะทางบ้านก็ยากจนทำให้ไม่มีเงินรักษา สามีภรรยาคู่นี้จึงตอบแทนความกตัญญูด้วยการนำตัวเองไปขายเป็นทาสเพื่อนำเงินมารักษาพ่อสามี จากนั้นทางฝั่งสามีจึงทำทุกวิถีทางเพื่อไถ่ตัวภรรยา จึงได้ทำขนมเปี๊ยะออกขายเพราะสามีเป็นผู้ที่มีฝีมือด้านทำขนมเปี๊ยะมากที่สุด ขนมเปี๊ยะมีรสชาติดีทำให้มีผู้คนอุดหนุนและบอกต่อให้มาซื้อเพื่อช่วยเหลือสามีคนนี้จนสามารถไถ่ตัวภรรยาออกมาได้ จึงถูกเรียกว่าขนม “เหล่าผั่วเปี๊ยะ”
ตำนานที่สองกล่าวว่า มีชายคนหนึ่งเดินทางออกจากบ้านไปทำงานอยู่ที่กวางโจว เมื่อครั้นจะกลับบ้านภรรยาได้ยินข่าวจึงคิดทำขนมเปี๊ยะออกมาเพื่อจะเอาใจสามี เมื่อสามีได้ทานถึงกับกล่าวว่ามันวิเศษมาก และก่อนที่จะเดินทางกลับไปทำงานจึงขอให้ภรรยาทำขึ้นมาเพื่อจะนำไปฝากเจ้านายและเพื่อนๆ เมื่อเจ้านายและเพื่อนๆได้ลิ้มรส ก็ทำให้เกิดการติดอกติดใจและเกิดการบอกต่อเป็นตำนานจนได้ชื่อว่า “เตี่ยจิวเหล่าผ่อเปี๊ยะ”
ความหมายของขนมเปี๊ยะ
ขนมเปี๊ยะ (餅) เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ความปรารถนาดีต่อกัน และความสมัครสมานสามัคคี ซึ่งความหมายของขนมเปี๊ยะในเทศกาลต่างๆ คือ ความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ และความสมหวัง เป็นขนมแห่งความสิริมงคลสื่อถึงความปรารถนาดีระหว่างผู้รับและผู้ให้ ทั้งยังเป็นขนมที่แสดงถึงความสามัคคีกันเพราะในเทศกาลต่าง ๆ ชาวจีนส่วนใหญ่มักจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวกินขนมเปี๊ยะเพื่อให้เกิดสิริมงคลและนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเอง ครอบครัว ธุรกิจและกิจการ ชาวจีนจึงมีความเชื่อสืบทอดต่อกันมาว่าในปีหนึ่ง ๆ มักจะมีสิ่งเลวร้าย เรื่องไม่ดีไม่งาม เรื่องอัปมงคลมากระทบ หรือรบกวนการดำเนินชีวิตจนทำให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ ขึ้น เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วย เงินทองไม่คล่อง ทำอะไรก็พบแต่ความยุ่งยาก ทำให้รู้ได้ว่า “ดวงชะตาชีวิต” ไม่ดีนักจึงต้องมีการขวนขวายหาที่พึ่งจึงก่อให้เกิดการไหว้เจ้า การไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ การไหว้บรรพบุรุษและประเพณีอื่น ๆ ขึ้น บนโต๊ะเซ่นไหว้จะประกอบไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความหมายต่าง ๆ กัน ขนมเปี๊ยะจะมีอักษรมงคลสีแดงประทับอยู่กลางขนม แต่ในปัจจุบันนี้พฤติกรรมการซื้อขนมเปี๊ยะนั้นได้เปลี่ยนแปลงแล้ว ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อขนมเปี๊ยะเพียงเพื่อไหว้เจ้าเท่านั้น แต่ผู้บริโภคยังซื้อขนมเปี๊ยะเพื่อเป็นของฝากและเพื่อการบริโภคอีกด้วย
ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา สูตรขนมสร้างอาชีพ
อย่างที่รู้กันดีว่าเมนูขนมเปี๊ยะทั่วไป เช่น ขนมเปี๊ยะไส้ถั่ว ขนมเปี๊ยะไส้เผือก หรือขนมเปี๊ยะไส้มันม่วงใคร ๆ ก็ทำขาย ลองเปลี่ยนมาทำไส้ลาวากันไหม เพราะฉะนั้นเราขอนำเสนอวิธีทำขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา สูตรจาก คุณศิริกัญ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำแป้งชั้นนอกและแป้งชั้นในห่อไส้ครีมไข่เค็มลาวา และทาไข่แดงเพิ่มความสวยงาม อบเสร็จก็เอาไปขายได้เลยค่ะ ง่ายมากๆไม่ต้องไปซื้อกินอีกต่อไปแล้ว
ส่วนผสม ไส้ไข่เค็มลาวา
| ส่วนผสม แป้งชั้นนอก
|
ส่วนผสม แป้งชั้นใน
| ส่วนผสม ไข่แดงทาหน้าขนม
|
ขั้นตอนที่ 1 : วิธีทำไส้ไข่เค็มลาวา
นำไข่เค็มแดงไปนึ่งหรือเข้าไมโครเวฟให้สุก แล้วนำมาบดหยาบ ๆ 👉 นำส่วนผสมทั้งหมดใส่โถปั่นให้ละเอียด 👉 ปั่นส่วนผสมเสร็จแล้วเทใส่กล่องปิดฝา นำไปแช่ช่องแข็งข้ามคืน 👉 หลังจากแช่แข็งข้ามคืนเรียบร้อย วันรุ่งขึ้นใช้ที่ตักไอศกรีม ปั้นเป็นลูก ๆ ขนาด 23 -25 กรัม ประมาณ 28-29 ลูก นำไส้ที่เราปั้นเสร็จแล้วไปแช่ช่องแข็งอีก 30 นาที หลังจากนั้นก็นำมาห่อได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 : วิธีทำไข่แดงสำหรับทาหน้าขนม
ขั้นตอนที่ 3 : วิธีทำแป้งขนมเปี๊ยะ
- ทำแป้งชั้นนอกโดยร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดรวมกัน ใส่เกลือลงไปด้วยตอนร่อน และเตรียมภาชนะสำหรับนวด
- นำน้ำตาลทรายและน้ำเปล่า ผสมรวมกัน คนให้น้ำตาลละลาย ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในภาชนะแล้วนวดจนแป้งเนียนนุ่ม ไม่ติดมือ ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที นวดเสร็จแล้วให้ใช้พลาสติกคลุมไม่ให้อากาศเข้า พักแป้งไว้ 30 นาที
- ทำแป้งชั้นในโดยร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดรวมกัน ใส่เนยรำข้าวกับน้ำมันพืชลงในแป้ง แล้วนวดจนปั้นเป็นก้อนได้ เสร็จแล้วใช้พลาสติกคลุมไม่ให้อากาศเข้า พักแป้งไว้ 30 นาที
- ก้อนใหญ่แป้งชั้นนอก ก้อนเล็กแป้งชั้นใน
- พอครบ 30 นาที แบ่งแป้งชั้นนอกกับแป้งชั้นในออกเป็นชนิดละ 10 ก้อน โดยแป้งชั้นใน ปั้นก้อนละ 13-14 กรัม และแป้งชั้นนอก ปั้นก้อนละ 35-36 กรัม
- ห่อแป้งชั้นนอกกับชั้นในเข้าด้วยกัน แล้วใส่กล่องปิดฝาให้สนิท พักแป้ง 1 คืน ไม่ต้องแช่ตู้เย็นวางไว้อุณหภูมิห้อง
- นำแป้งที่เราหมักไว้ 1 คืนมารีดเป็นรูปวงรียาว ๆ แล้วม้วนให้เป็นแท่ง เสร็จแล้วใส่กล่องปิดฝาให้สนิท พักแป้ง 20-30 นาที
- พอครบ 30 นาทีก็มารีดอีกครั้ง ให้รีดตามยาวแล้วม้วนให้แน่น เสร็จแล้วใส่กล่องปิดฝาให้สนิท พักแป้ง 20-30 นาที
- หลังจากนัดตัดแป้งออกเป็น 2 ชิ้นแล้วรีดให้เป็นรูปกลม ๆ ใส่ไส้ลาวาลงไป (รีดแป้งให้เสร็จก่อนค่อยห่อไส้ เพราะตัวไส้ละลายเร็ว)
- เสร็จแล้วจัดเรียงใส่ถาด นำเข้าเตาอบ ใช้ไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส อบรอบแรก ประมาณ 5-6 นาที
- นำออกมาทาหน้าด้วยไข่แดง
- อบรอบที่สอง ประมาณ 4-5 นาที แล้วนำออกจากเตาพักให้เย็น
- แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะทุกคน กินอร่อยฟินๆได้เลย
เป็นยังไงบ้างคะ จบไปแล้วสำหรับวิธีทำขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม ใครจะเอาไปทำเป็นซาลาเปาไข่เค็มลาวาก็ได้เช่นกันนะคะ ถ้าเบื่อขนมเปี๊ยะลูกกลมทุกคนลองเปลี่ยนเป็นขนมเปี๊ยะรูปสัตว์ทก็ดูน่าซื้อไปอีกแบบนะคะ แถมยังเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย ขอให้สนุกกับการทำนะคะทุกคน ติดตามบทความอื่นๆได้ที่นี่
ที่มา : Sgethai